วิธีถนอมผ้าปู ให้ดูใหม่
การนอน ถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกในกิจวัตรประจำวันของเรา แน่นอนว่าทุกคนอาจจะพบกับปัญหาการนอนไม่หลับ สาเหตุหนึ่งก็มาจากการไม่ทำความสะอาดผ้าปูที่นอน อาจทำให้นอนแล้วเกิดอาการระคายเคืองต่อผิวหนัง และก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ เราจะต้องรู้วิธีการถนอมผ้าปูที่นอนอย่างถูกต้อง เพราะคนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับการซักผ้าปูที่นอน แทนที่จะถนอมผ้าปูให้ดูใหม่ ก็กลับกลายเป็นทำให้ผ้าปูที่นอนเสื่อมสภาพลง ผ้าปูที่นอนเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างมากต่อการนอน ดังนั้นเราจึงต้องรู้แนวทางในการดูแลรักษาผ้าปูที่นอน ให้คุ้มค่าต่อการใช้งานให้ได้มากที่สุด

1. อ่านฉลากให้เข้าใจก่อน
ลองสังเกตฉลากที่ติดกับชุดเครื่องนอนก่อนลงมือซัก ว่าสามารถนำไปปั่นในเครื่องซักผ้าได้หรือไม่ เพราะผ้าปูที่นอนบางชนิดก็ไม่สามารถทนต่อการซักเครื่องได้ อาจจะต้องใช้มือซักแทน จึงจำเป็นต้องอ่านฉลากหรือคู่มือในการซักให้เข้าใจก่อน อย่างละเอียดและรอบคอบ เพราะผ้าปูที่นอนแต่ละรุ่นก็มีเนื้อผ้าที่ต่างกัน การซักก็จะต่างกันไปด้วย
แยกผ้าปูออกจากเสื้อผ้า
2. แยกผ้าปูออกจากเสื้อผ้า
บางคนมักชอบนำผ้าไปซักรวมกันทีเดียว เพื่อเป็นการประหยัดเวลา ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดๆ เพราะจะทำให้ซิปหรือตะขอของเสื้อผ้า ไปขีดข่วนผ้าปูที่นอนให้เกิดรอย หรือสีของเสื้ออาจจะตก ทำให้ผ้าปูที่นอนเกิดความเสียหายได้ ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องแยกผ้าปูออกจากเสื้อผ้า เพื่อเป็นการถนอมผ้าปูที่นอนให้คงคุณภาพ และการแยกผ้าปูที่นอนออกจากเสื้อผ้า ก็จะช่วยให้มีพื้นที่ในการปั่นมากขึ้น และสามารถทำความสะอาดผ้าปูที่นอนได้อย่างทั่วถึง

3. เลือกน้ำยาซักผ้า สูตรถนอมผ้า
หากแน่ใจได้ว่าผ้าปูที่นอนของเราสามารถซักเครื่องได้ ก็เตรียมนำผ้าปูที่นอนใส่ลงเครื่อง ตั้งระบบเป็นแบบซักด้วยน้ำเย็นหรือน้ำธรรมดา แล้วรอให้น้ำเต็มถัง ค่อยเทผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าสูตรถนอมเนื้อผ้าลงไป ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ในการซักผ้าที่มีสารเคมีไปทำลายเนื้อผ้า หากหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาฟอกขาวได้ก็ยิ่งดี และไม่ควรใส่ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้ามากเกินไป เพราะอาจทำให้ทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง เกิดอาการแพ้ขณะกำลังนอนหลับได้ ควรใส่อย่างพอดีและศึกษาวิธีการดูแลรักษาผ้าปูที่นอนอย่างถูกต้อง
4. เลือกโหมดปั่นรอบต่ำที่สุด
สำหรับการซักเครื่อง เราควรเลือกปั่นในโหมดรอบต่ำที่สุด เพื่อเป็นการถนอมผ้าปู หากเราใช้ความเร็วสูงในการปั่น อาจจะทำให้ผ้าปูที่นอนชำรุด และก่อให้เกิดความเสียหายได้ การซักผ้าปูที่นอนจึงต้องละเอียดอ่อนทุกกระบวนการ เพื่อให้ผ้าปูที่นอนของเราใช้งานได้นานมากที่สุด

อบแห้งหรือตากแดดอย่างถูกวิธี
5. อบแห้งหรือตากอย่างถูกวิธี
ถ้าหากมีเครื่องสำหรับอบผ้า ก็สามารถนำผ้าปูที่นอนไปอบได้เลย โดยตั้งอุณหภูมิความร้อนระดับปานกลาง แต่ข้อควรระวังไว้ อย่าอบนานเกินไป เพราะอาจจะทำให้ผ้าปูที่นอนไหม้ได้ หากไม่มีเครื่องอบผ้า ก็สามารถนำผ้าปูที่นอนไปตากแดดได้ในบริเวณที่อากาศถ่ายเท แต่ก็ไม่ควรตากที่แดดจัด เพราะเส้นใยของผ้าปูที่นอนอาจเสื่อมสภาพได้ การนำผ้าปูไปอบหรือตากแดดอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยถนอมผ้าปูที่นอน และป้องกันไรฝุ่น เชื้อโรคได้เป็นอย่างดี
จัดเก็บในที่แห้งและปลอดภัย
6. จัดเก็บในที่แห้งและปลอดภัย
หลังจากที่เราได้ทำความสะอาดผ้าปูที่นอนทุกขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว ก็ตรวจสอบว่าผ้าปูแห้งสนิทแล้วหรือยัง ไม่ควรเก็บผ้าปูที่นอนในขณะที่ยังไม่แห้ง เพราะจะทำให้ผ้าปูที่นอนเกิดเชื้อราและแบคทีเรียได้ รวมไปถึงส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์อีกด้วย นอกจากนี้ควรนำผ้าปูที่นอนไปจัดเก็บในที่แห้งเย็น ให้ห่างไกลจากสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์ไม่พึงประสงค์ในบ้าน เช่น หนู แมลงสาบ เป็นต้น เพื่อถนอมไม่ให้ผ้าปูที่นอนเกิดความเสียหาย เราจึงต้องจัดเก็บผ้าปูที่นอนให้ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด
การถนอม “ ผ้าปูที่นอน ” เป็นสิ่งที่ควรจะให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดผ้าปูที่นอนเป็นประจำอย่างน้อยทุก 1 - 2 สัปดาห์ เพื่อไม่ให้ผ้าปูที่นอนสกปรก ไม่มีปัญหาเรื่องของไรฝุ่นและแบคทีเรีย แต่ทั้งนี้การดูแลรักษาผ้าปูที่นอน ก็จะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของเนื้อผ้าด้วย เพราะผ้าปูที่นอนบางรุ่นก็ไม่แนะนำให้ใช้ผงซักฟอก อาจจะทำให้เนื้อผ้าเกิดความเสียหายได้ ดังนั้น เราควรศึกษาขั้นตอนการทำความสะอาดผ้าปูที่นอนก่อนทุกครั้ง เพื่อการถนอมผ้าปูที่นอน ให้คงคุณภาพอยู่เสมอ หากเรารู้วิธีในการดูแลผ้าปูที่นอนแล้ว ก็จะทำให้บรรยากาศการนอนหลับของคุณเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบมากขึ้น
ชุดผ้าปูที่นอน Lotus Impression Print รุ่น LI 036

ชุดผ้าปูที่นอน Lotus Impression Print รุ่น LI 043
ชุดผ้าปูที่นอน Lotus Impression Print รุ่น LI 046A